หรือเงิบเป็นแถวๆ!! ผลตรวจพิสูจน์คราบเลือดรถเก๋ง"ผอ.อ้อย" ออกแล้ว ความจริงใกล้ปรากฎ คนเป็นพ่อลั่น "ทำไมคดีล่าช้าขนาดนี้"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  จากกรณีที่เจ้าหน้าที่แผนกพิสูจน์หลักฐาน  ตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ได้ทำการตรวจรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบลอน...



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  จากกรณีที่เจ้าหน้าที่แผนกพิสูจน์หลักฐาน  ตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ได้ทำการตรวจรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบลอนด์เงิน  หมายเลขทะเบียน กษ 8201 เชียงใหม่  ของ น.ส.จุฑาภรณ์  อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี ผอ.กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์  จ.ศรีสะเกษ ได้ขับขี่แล้วหายไปอย่างมีเงื่อนงำ  ต่อมาพนักงานสอบสวน ชุดคลี่คลายคดีได้ไปทำการตรวจยึดรถเก๋งคันนี้มาจากอู่แห่งหนึ่งที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่า ร.อ.ศุภชัย  ภาโส นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 จ. อุบลราชธานี ได้นำเอาไปขาย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีคราบคล้ายคราบเลือดที่เบาะหลังและเบาะหน้ารถเก๋ง  จึงได้ส่งรถเก๋งของกลางไปตรวจพิสูจน์ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 ตำรวจภูธรภาค 3 จ.นครราชสีมา ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้ว นั้น


loading...


ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้  เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 60   พ.ต.อ. สมพิศ เสียงสวัสดิ์   ผกก.พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า  จากการที่ได้ส่งรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบลอนด์เงิน หมายเลขทะเบียน กษ 8201 เชียงใหม่  ของ น.ส.จุฑาภรณ์  อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี ผอ.กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์  จ.ศรีสะเกษ  ไปตรวจพิสูจน์คราบที่คล้ายคราบเลือดที่เบาะรถเก๋งที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 จ.นครราชสีมาแล้ว  ผลการตรวจพิสูจน์ปรากฏว่า  คราบที่เบาะรถของ น.ส.จุฑาภรณ์ ไม่ใช่คราบเลือดตามที่มีการสงสัยกันแต่อย่างใด





ทางด้าน  นายบุญเลิศ   อุ่นอ่อน  อายุ  62 ปี  พ่อของ น.ส.จุฑาภรณ์ เหยื่อสีเขียวทมิฬที่หายตัวไปกล่าวว่า  ตนไม่แปลกใจที่ผลการตรวจพิสูจน์คราบที่เบาะรถของลูกสาวตนไม่ใช่คราบเลือด  แต่ที่ตนแปลกใจมากกว่าคือ  เพราะเหตุใดจึงไม่เร่งดำเนินการตรวจพิสูจน์รถตั้งแต่ตรวจยึดได้ตั้งแต่ตอนแรกที่อู่ซ่อมรถที่ จ.อุบลราชธานี  ปล่อยเวลาให้ผ่านไปเนิ่นนานแล้วจึงได้มาตรวจพิสูจน์รถ  ซึ่งระยะเวลาผ่านไปนานเท่าใดเวลาก็ย่อมจะสามารถทำลายทุกสิ่งอย่างได้  ไม่เว้นแม้แต่หลักฐานต่าง ๆ ที่อยู่ในรถเก๋งของ


loading...

ลูกสาวตน  ตนไม่ทราบว่า เพราะเหตุใดจึงปล่อยเวลาให้ผ่านไปนานหลายสัปดาห์จึงได้ไปทำการตรวจพิสูจน์รถที่เป็นพยานวัตถุสำคัญที่จะเชื่อมโยงคดีฆาตกรรมไปถึงสีเขียวอำมหิตคนหนึ่ง ทำให้หลักฐานพยานถูกลบเลือนไป

นายบญเลิศ กล่าวต่อไปว่า ตนเห็นว่า  คดีนี้ยิ่งปล่อยเวลาให้นานไป คดียิ่งจะล่าช้าและเงียบหายไป ลูกสาวของตนคงจะหายไปอย่างไร้ความเป็นธรรม  อีกทั้งมีข่าวลือหนาหูว่า บิ๊กสีกากีคนหนึ่งเป็นพี่น้องร่วมรุ่นกับบิ๊กสีเขียว ตนจึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีนี้คงจะต้องขอวิงวอนให้ พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี  ส่งเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ  ลงมาทำคดีนี้ด้วย  เพราะว่า คดีล่าช้ามาก





Cr:https://www.siamnews.com

You Might Also Like

0 comments

Flickr Images